มีโอกาสหวนคืนจอทีวีอีกครั้งกับการเล่นละครให้กับสถานีโทรทัศน์ Thai PBS (ไทย พีบีเอส) เรื่อง “แซนดี้ ครูแสนดี” งานนี้ดาราสาว “ปอนด์ รุ่งรัตน์“ ถึงกับปลื้มอกปลื้มใจในความเมตตาของผู้จัดละครที่ทำให้กลับมามีงานอีกครั้ง หลังห่างหายจากงานแสดงไปนาน โดยที่เธอเปิดใจช่วงหนึ่งว่า
“ปอนด์หายไปจริงๆ แต่ว่าโชคดี Thai PBS ยังไม่เคยทิ้งเรา พอมีละครที่เหมาะสมก็ได้โอกาสมาเล่นในเรื่อง แซนดี้ ครูแสนดี บทก็จะเนี๊ยบมาก เป็นครูเจ้าระเบียบ จะเหวี่ยงๆ เหวี่ยงตั้งแต่นักเรียน ครูด้วยกัน จนถึง ผอ. คือทุกคนจะเกรงๆ เพราะเป็นครูเข้มงวด (ขัดกับคาเรคเตอร์ตัวเองมั้ย?) ก็ไม่เท่าไหร่นะ ตัวเองจะเป็นคนดุๆบ้าง แต่ใจดีค่ะ ก็เล่นได้ค่ะเพราะสุดท้ายแล้ว ในเรื่องก็เป็นคนดุและใจดี คอยแอบช่วยเหลือหลายๆ คน สุดท้ายเราก็เข้าใจและยอมรับทุกเรื่อง ทั้งระบบการศึกษาระบบใหม่ระบบเก่าผสมผสานกัน ในเรื่องมีน้องๆ เจนใหม่ๆ ทั้งนั้นเลย เราก็นั่งเป็นป้าเงียบๆ เพราะเขาจะซนๆน่ารักๆ เล่นกันในกองฯ แต่เขาก็เล่นเก่งนะ เก่งกว่าปอนด์อีก คือเราเป็นคนรุ่นเก่า พอเห็นน้องๆ มีความตั้งใจ และความขยัน บทนี่เป๊ะๆ ไม่ได้สร้างปัญหาอะไร ทำให้เราสดชื่นด้วยซ้ำ”
พอถามว่าปีหนึ่งเล่นละครเรื่องหนึ่ง แล้วช่วงที่ไม่ได้รับละครล่ะ ทำอะไรบ้าง? เธอว่าช่วงก่อนหน้านี้เจอวิกฤติชีวิตหนัก ถึงขั้นไม่มีที่อยู่อาศัย ไม่มีรถขับ ไม่มีเงิน ไม่มีกิน ไม่มีงาน ต้องดิ้นรนทุกอย่าง ต่อให้มีละครเรื่องหนึ่ง ก็มีรายได้อยู่แค่ช่วงเดียว แต่ก็โชคดีที่มีผู้ใหญ่ช่องทีวี MVTV ซึ่งเขาก็เมตตาเรา เลยให้ทำรายการจากหนึ่งรายการ ตอนนี้เพิ่มเป็น 5 รายการแล้ว และถือว่าเป็นเรื่องแปลกสำหรับตัวเองมาก ที่อยู่ๆ งานต่างๆที่เราถือลิขสิทธิ์ จากที่มืดมนมาก ก็มีติดต่อเราจากต่างประเทศ อยากได้งานของเราเองไปต่อยอด แล้วมีรายได้เข้ามา ทำให้สามารถทยอยเคลียร์หนี้ได้บ้างแล้ว ซึ่งทั้งหมดนี้เกิดขึ้นหลังจากเธอตัดสินใจทำศัลกรรมนั้นเอง
“ปอนด์รู้สึกโชคดีที่ถูกชวนให้ไป ทำศัลยกรรมดึงหน้าเคสรีวิวที่ วายเคเจ (คลีนิก YKJ Medical Center) ตอนที่ชีวิตมันหมองหม่นไปหมด หน้าเราก็ อายุเยอะ แต่พอทำศัลยกรรมมาแค่ 2 สัปดาห์งานเข้าเลยค่ะ ทั้งละครและพีธีกร จนรู้สึกว่า เฮ้ย ตั้งแต่เราเปลี่ยนโหงวเฮ้ง เปลี่ยนความสดใส และเปลี่ยนทัศนคติของเราที่ทำให้เป็นความสุขซะ ลืมเรื่องเก่าไปให้หมดก่อน ดูแลแม่กับพี่ให้ดีก่อน แล้วมาทำให้หัวใจตัวเองมีความสุขเข้าไว้ แล้วหน้าที่สดใสขึ้น เหมือนมันเปิดรับสิ่งดีๆ เข้ามา คือปอนด์ไม่รู้ว่าใช่หรือเปล่านะ แต่ทุกอย่างก็เปิดขึ้น
(อยู่ๆ ฟ้าเปิด?) ใช่ เห็นชัดเลยว่ามีสิ่งที่ดีๆ เข้ามาเยอะ (เพราะเปลี่ยนโหงวเฮ้ง?) ปอนด์ไม่รู้ว่าเพราะโหงวเฮ้งหรือเปล่า แต่ตอนนั้นตาเราก็ตก หน้าตก ตกไปหมด (ทำอะไรมาบ้าง?) ปอนด์ทำทั้งหน้าเลย(ยิ้ม) คือคุณหมอเขาก็เมตตาทำให้หมดเลย ก็มีฉีดไขมันหน้าผาก ดึงหน้าทั้งหน้าเลย แล้วฉีดไขมันที่ตา เก็บถุงใต้ตา ดึงคอ แล้วแก้ปลายจมูกให้มันเชิดนิดนึง
(ก่อนทำมีการคุยเรื่องโหงวเฮ้งมั้ย?) ไม่ได้คุยค่ะ แต่หลังจากทำเสร็จ แล้วมีการไปดูแลแผล หมอถามว่ามีงานเข้าหรือยัง ปอนด์ก็ถามว่ามันเกี่ยวอะไรกับงานเข้าคะ คุณหมอรู้ได้ยังไงคะว่ามีงานเข้า คือปอนด์ไม่เคยโทรบอกใครเลย พอบอกหมอว่ามีละครเข้า 2 เรื่อง คุณหมอก็บอกว่าเดี๋ยวมีเข้ามาอีกเรื่อยๆ เราก็แบบว่า คุณหมอเป็นหมอดูหรือหมอศัลยกรรมคะ(หัวเราะ) คิดว่าคุณหมออาจจะรู้โหงวเฮ้งแล้วทำเปิดโหงวเฮ้งให้..นี่ยังไม่เสร็จนะคะ คุณหมอกันบอกอาจจะต้องเปิดตาให้สว่างขึ้นอีกนิดนึง (ทำมานานหรือยัง?) ประมาณ 6 เดือนกว่า แต่งานเข้ามาก ปอนด์อยากเปิดตารางงานให้ดูเลย ว่ามีทุกวันเลย แต่ยังไม่พอนะคะ จริงๆ ยังอยากมีงานอีก เพราะเคยได้ยินผู้มีเมตตาหลายคนรับคนไลฟ์ขายของ อยากจะช่วยลูกหนี้อะไรยังงี้ค่ะ ถ้าจะช่วยลูกกตัญญูด้วยได้มั้ยคะ(หัวเราะ) เพราะตอนนี้คุณแม่ร่างกายไม่แข็งแรง ปอนด์ก็อยากหาเงินบำบัดฟื้นฟูให้ร่างกายและจิตใจให้แม่กลับมาแข็งแรง จะได้ช่วยเหลือตัวเองได้ อย่างตอนนี้ปอนด์ทำงานติดๆ กัน เริ่มบ้านหมุนอีก แล้วพี่ชายที่เป็นจิตเวชต้องดูแลแม่แทนเวลาที่ไปทำงาน พี่ชายก็สะสมเครียดไปด้วย ควบคุมตัวเองได้ไม่ดี กลัวว่าจะหนีออกจากบ้านอีก คือโทรหาปรึกษาพี่ท็อป(บิณฑ์ บรรลือฤทธิ์) พี่ท็อปบอกว่าเอางี้ ปอนด์เคลียร์เรื่องพี่ปุ๊ก่อน แล้วรับแม่ไปอยู่กับพี่ท็อป พอเราว่างเราก็ไปสลับพาแม่กลับมาอยู่ด้วย พอติดงานต่อเนื่องก็จะไปฝากที่บ้านสุขฯค่ะ ส่วนพี่ปุ๊ตอนนี้พี่ป้อมพี่ชายคนโตรับไปอยู่ด้วย ปอนด์ก็ดูแลค่าใช้จ่ายบางส่วนค่ะ”
“พอเริ่มมีเงินเราก็นึกถึงคนที่เคยเมตตาเรา ช่วยเราตอนที่เราลำบาก ก็อยากบอกหลายๆ คนว่า ตอนนี้ปอนด์ดีขึ้นแล้วนะ ชีวิตดีขึ้นมากเลย แต่ดีขึ้นในลักษณะที่ว่าไม่ต้องดิ้นรนไปหาเงินจ่ายค่าเช่าบ้านแล้ว เพราะมีเงินเดือนประจำแล้ว แต่ว่าค่าอยู่ค่ากินค่าแพมเพิร์ธแม่ จิปาถะต่างๆมากมาย ก็ยังต้องหาอีก ก็พยายามหาทุกทางเพื่อให้เราไปได้ ไม่ต้องเหนื่อยเหมือนตอนที่เราแบบ เฮ้อ ร้อยนึง เมื่อไหร่จะขายกางเกงได้สักตัว มันยากมาก แต่ตอนนี้เหมือนเราตั้งหลักได้ด้วยเงินหมื่นแล้ว จ่ายค่าเช่าบ้านได้แล้ว ค่อยหางานเพิ่มเติมให้เราดูแลตัวเองได้ในเดือนนึงที่เราจะไม่ติดลบ แล้วส่วนที่เหลือก็จะกระจายคืนให้ทุกคนที่เขาให้เรามา ซึ่งปอนด์ต้องขอบคุณทุกคนที่เคยช่วยตอนที่ปอนด์ลำบาก พี่ท็อปพี่ไทด์(บิณฑ์-เอกพันธ์ บรรลือฤทธิ์ )บ้านสุขสุดท้าย น่ะค่ะ ช่วยดูแลแม่กับพี่ชายตลอด ขอบคุณไทยพีบีเอส(Thai PBS),ผู้จัดละคร
ขอบคุณMVTV, ช่องเกษตรนิวส์ และ พี่ๆ เพื่อนๆ กัลยาณมิตร พี่น้องสื่อฯทุกคนที่มีส่วนช่วยทุกเรื่องค่ะ ฝากถึงหมอของขวัญด้วยนะคะ อยากรับจ้างไลฟ์สดขายของให้ค่ะ(ยิ้ม)”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น
หมายเหตุ: มีเพียงสมาชิกของบล็อกนี้เท่านั้นที่สามารถแสดงความคิดเห็น